by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, ธุรกิจ
เหตุผลใดหรือทำไมต้องทำการประมูลบ้านจากกรมบังคับคดี บ้านหรือคอนโดราคาถูกกว่าท้องตลาดเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจที่จะชื้อบ้านหรือคอนโดมือสอง ราคาเบาๆ รวมถึงการประมูลบ้านของตนเองที่ถูกยืดและขายทอดตลาดโดยกรมบังคับดคี เมื่อถึงเวลาต้องชื้อบ้านด้วยวิธีนี้ ก็จะช่วยให้ผู้ชื้อสามารถประมูลบ้านที่หลุดจำนองจากกรมบังคับคดีได้คล่องมากขึ้นมารู้จักกับการประมูลบ้านจากกรมบังคับคดีเมื่อลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้อง ทรัพย์สินของลูกหนี้ก็จะต้องถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินไปชดใช้หนี้ กรมบังคับคดีจึงมีหน้าที่นำบ้านหรือคอนโดออกประมูลขายตามคำตัดสินของศาล บ้านหรือคอนโดที่ถูกขายโดยกรมบังคับคดีมีจุดประสงค์ในขายเพื่อชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้เป็นหลัก ดังนั้นราคาเปิดประมูลจึงมักจะต่ำกว่าราคาบ้านที่ขายในท้องตลาดมากพอสมควรเรามาเริ่มขั้นตอนการเตรียมตัวประมูลบ้านจากกรมบังคับคดีกันเลยดีกว่าค่ะ
1.ค้นหาบ้านที่ต้องการประมูลสามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์กรมบังคับคดีเมื่อเจอบ้านที่ถูกใจ ก็ควรที่จะไปตรวจสอบสภาพบ้านด้วยตนเอง และสอบถามเงื่อนไขการประมูลได้ที่สายด่วนกรมบังคับคดี โทร.0-2881-4999
2.เตรียมเอกสารและเงินประกันใช้เพียงบัตรประชาชนพร้อมสำเนา สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้ประมูลแทนได้ โดยต้องใช้หนังสือมอบอำนาจปิดอากรแสตมป์ 30 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบ ส่วนเงินประกันผู้ประมูลต้องเตรียมเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คตามเงินประกันที่กรมบังคับคดีกำหนด
3.ผู้ประมูลเข้าลงทะเบียนในวันประมูล ผู้ประมูลต้องลงทะเบียนกับเจ้าพนักงาน พร้อมวางเงินสดเป็นหลักประกันและทำสัญญาในการเสนอราคา จากนั้นรับป้ายประมูลและเข้าไปนั่งในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้
4.เจ้าพนักงานกำหนดราคาเริ่มต้นก่อนเริ่มการประมูลพนักงานจะอธิบายเงื่อนไขต่างๆในการประมูลให้ทราบ และจะทำการกำหนดราคาเริ่มต้นในการประมูลรอบที่1 แต่ถ้าไม่มีผู้เสนอราคาในรอบนั้น ราคาเริ่มต้นรอบ 2 จะลดเหลือ 90%และรอบที่3 ลดเหลือ 80%และรอบที่ 4 ลดเหลือ 70% หรือจนกว่าจะมีผู้ประมูล
5.ผู้ประมูลยกป้ายเสนาราคาเมื่อเจ้าพนักงานเปิดประมูล ผู้ที่สนใจสามารถยกป้ายเพื่อขอเสนอราคาตามราคาเริ่มต้นหรือยกป้ายสู้ราคากับผู้ประมูลท่านอื่น โดยพนักงานจะเป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มราคาครั้งละเท่าใด และผู้ประมูลสามารถเพิ่มราคาได้เท่ากับหรือมากกว่าที่กำหนดก็ได้
6.เจ้าพนักงานเคาะไม้ให้ผู้ชนะการประมูลเมื่อบ้านถูกประมูลจนได้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานก็จะถามหาผู้คัดค้านจากฝ่ายที่เป็นผู้ได้เสียหายหากไม่มีผู้คัดค้าน เจ้าพนักงานก็จะเคาะไม้ขายบ้านหลังนั้นให้ผู้ชนะการประมูล ผู้ชนะการประมูลต้องทำการชำระเงินและโอนกรรมสิทธิ์ในขั้นตอนต่อไป ส่วนผู้แพ้ประมูลก็รับเงินประกันคืนทันที
7.ทำสัญญาชื้อขายผู้ชนะประมูลบ้านจากกรมบังคับคดีต้องทำสัญญาชื้อขายและชำระเงินตามราคาประมูล ณ วันที่ชื้อ แต่ในกรณีที่ผู้ชนะประมูลอยู่ในระหว่างรวบรวมเงินหรือรออนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร กรมบังคับคดีจะให้เวลา 15-90 วันโดยต้องมีเหตุผลสมควรหรือมีเอกสารยืนยันจากธนาคาร ส่วนเงินประกันหรือมัดจำไม่สามารถขอคืนได้
8.การโอนกรรมสิทธิ์หลังจากชำระเงินเรียบร้อย เจ้าพนักงานกรมบังคับคดีจะมีหนังสือถึงเจ้าพนักงานกรมที่ดิน พร้อมมอบเอกสารสิทธิ์และเอกสารเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ชนะการประมูลดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ได้ด้วยตัวเอง ณ สำนักงานกรมที่ดิน
9.ค่าใช้จ่ายต่างๆในการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายผู้ขาย มีดังนี้*ค่าโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ 2 ของราคาประเมิน*ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย คิดตามฐานภาษีอัตราก้าวหน้า*ภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ 3.3 หรืออากรแสตมป์ร้อยละ 0.5 ตามเงื่อนไขการครอบครอง*ค่าจดจำนองร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ในกรณีที่ผู้ชนะประมูลขอกู้บ้านกับธนาคาร
ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือขั้นตอนและสิ่งต่างๆที่ควรรู้เกี่ยวกับการประมูลบ้านและคอนโดมือสองจากกรมบังคับคดี เผื่อท่านใดได้มีโอกาสที่จะต้องการชื้อบ้านและคอนโดมือสองในราคาถูกกว่าในท้องตลาด และถ้าได้สภาพบ้านที่ยังดีอยู่ ผู้ชื้อก็ยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย หรือแม้แต่ผู้ที่ถูกยืดบ้านก็สามารถที่จะประมูลบ้านของตนเองกลับคืนมาในราคาถูกได้อีกด้วยค่ะ
by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, สุขภาพ
มาร์วิส (Marvis) คือยาสีฟันกลิ่นหอมสดชื่นหรูหราแบบสไตล์ชาวอิตาเลียนชั้นสูงอย่างแท้จริง ถูกส่งต่อหลายชั่วอายุคนจนทำให้มาร์วิสกลายเป็นที่รู้จักในประเทศอิตาลีและทั่วโลก ยาสีฟันมาร์วิสมีชื่อเสียงมายาวนานถึง 61 ปีตั้งแต่ปี 1958 ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติและในขณะเดียวกันยังมอบความขาวสะอาดให้กับฟัน กำจัดคราบหินปูน เพื่อรอยยิ้มที่สวยสดใส ด้วยเนื้อครีมเข้มข้น นุ่มนวล พร้อมกลิ่นอโรม่ามิ้นหอมสดชื่นและด้วยแพคเกจจิ้งสีเงินเมทัลลิคผสมผสานกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบเรโทรคลาสสิก(Retro Classic) ร่วมสมัยเปรียบเสมือนงานศิลปะชั้นดีชั้นหนึ่ง ที่ได้เปลี่ยนวงการยาสีฟันของโลกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยรสชาติบริสุทธิ์และรูปลักษณ์แบบฉบับมาร์วิสที่ยังทรงคุณค่าและเป็นเช่นนี้อยู่ทุกยุคสมัยด้วยเหตุนี้มาร์วิสจึงกลายเป็นที่ยอมรับของผู้คนและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วโลกและยังได้รับการตอบรับจากเหล่าเซเรบริตี้และแฟชั่นนิสต้าเป็นอย่างมากมาร์วิสมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 รสชาติเรามาทำความรู้จักยาสีฟันมาร์วิสกันเลยดีกว่าค่ะ
1.Whitening Mint(ขาวเงิน) 85 ml.

เป็นสูตรที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบรูณ์แบบ ให้ความรู้สึกสดชื่นยาวนาน มิ้นสูตรเฉพาะที่เพิ่มความเข้มข้นในการทำความสะอาด โดยไม่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวสาเหตุของฟันกร่อน ทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำลายเนื้อฟัน
2.Amarelli Licorice (ดำ) 85 ml.

ความสดชื่นจากรสชาติดั้งเดิมของลูกอม Liquorice จากการร่วมกับ Amarelli ผู้ผลิตลูกอมระดับโลกที่ได้รับการขนานนามว่า “Best Liquorice in the world” อีกหนึ่งรสชาติสุดคลาสสิคที่มีที่เดียวในโลก
3.Classic Strong Mint (เขียว) 75ml.

เป็นยาสีฟันสูตรแรกของมาร์วิว จากใบมิ้นคุณภาพคัดสรรมาอย่างดีที่สามารถขจัดคราบพลัคและหินปูนเพื่อสัมผัสความสะอาดล้ำลึกและสดชื่นยาวนาน
4.Ginger Mint (ส้ม) 75 ml.

ความสดชื่นที่รังสรรค์อย่างประณีตด้วยวัตถุดิบที่ให้ความเผ็ดร้อนอย่างเช่น ขิง ที่ให้ความแปลกใหม่ด้วยรสชาติพร้อมกระตุ้นให้สดชื่นรับวันใหม่
5.Aquatic Mint (ฟ้า) 75 ml.

กลิ่นอายความสดชื่นจากท้องทะเลที่เข้ากันไดดีกับความสดชื่นของมิ้น ให้ความสดชื่นเหมือนอยู่กลางมหาสมุทร
6.Cinnamon Mint (แดง) 75ml.

มอบความอ่อนโยนด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของมิ้นที่แฝงด้วยเสน่ห์ของชินนามอน มอบความหอมหวาน ชึ่งเป็นรสชาติที่แปลกใหม่และไม่เคยสัมผัสมาก่อน
7.Jasmin Mint (ม่วง) 75 ml.
สัมผัสกับการผสมผสานที่น่าทึ่งตามแบบฉบับของดอกมะลิและความหอมสดชื่นของมิ้น ทำให้ได้รสชาติใหม่ที่จะทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายได้อย่างลงตัวการใช้มาร์วิส บีบแค่ 0.5-1 cm.ก็พอนะคะ และจะหมดอายุ 1 ปีเมื่อเปิดใช้ค่ะ จากสรรพคุณที่กล่าวมาข้างต้นบอกเลยค่ะ มันเสิศจริงๆ!!!! ต้องลองค่ะ
by PuttaChart | Sep 3, 2019 | blog

1. ระบบจะเก็บข้อมูลประเภทบทสนทนา ที่เป็นตัวหนังสือและสติ๊กเกอร์ย้อนหลังนานขึ้น จากเดิม 4 เดือน เป็น 1 ปี (รูปมันเก็บหรือเปล่าต้องลองดู)
2. ระบบจะขึ้น “read” ในแชตแบบ 1-1 ที่ตั้งเป็น Chat mode (แต่จะไม่ขึ้นในแชตที่คุยเป็นกลุ่ม และแบบที่ใช้โหมดบอต)
3. Android สามารถเลือกส่งรูปได้ทีละหลายๆ รูป เฮ้อ ทำได้ซะที
by PuttaChart | Sep 2, 2019 | blog, ท่องเที่ยว
สามพันโบก คำว่า “โบก” ของชาวลาวนั้นแปลเป็นไทยว่า “แอ่ง” ดังนั้น สามพันโพก จึงหมายถึง แก่งหินหรือร่องหิน สภาพหินที่เป็นหลุมหรือแอ่งจำนวนสามพันแอ่งนั่นเองค่ะ สามพันโบกอยู่ใต้ลำน้ำโขง อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะผ่านกาลเวลานานหลายปี จนเกิดเป็นร่องหินขนาดใหญ่ และจนกลายเป็นโบกที่สวยงามแปลกตาจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน กินพื้นที่ริมแม่น้ำโขงทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ยาวตั้งแต่บ้านโป่งเป้าจนถึงบ้านปากกะหลาง ตำบลสองคอน เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมคร รวมเป็นพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร
โบกหรือแอ่งจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้ง แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำ จนชาวบ้านเรียกว่า “แกรนด์แคนยอนน้ำโขง” ซึ่งจะเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม – พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งหลังจากนี้จะมีน้ำหลากมาท่วมโบกเหล่านั้นก็จะจมหายไปอยู่ใต้แม่น้ำ
การเดินทางท่องเที่ยวชมสามพันโบก นิยมนั่งเรือจากหาดสลึงที่บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร ล่องตามลำน้ำโขงระยะทาง 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน “ปากบ้อง” ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขง และ “หินหัวพะเนียง” เป็นแก่งหินกลางแม่น้ำที่ทำให้แม่น้ำแยกออกเป็นสองสาย หรือ สองคอนในภาษาถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านสองคอน” นั่นเอง ในบริเวณใกล้เคียงกันยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่เช่น “หาดหงษ์” จะเป็นเนินทรายแม่น้ำโขงขนาดใหญ่เกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกันจนเป็นพื้นทรายที่กว้างมาก ลักษณะคล้ายกับทะเลทรายที่กว้างใหญ่ ช่วงเวลาที่นิยมมาเที่ยวหาดหงส์จะเป็นช่วงเวลาในยามบ่ายแก่ๆ ช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า จะเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมากค่ะ
เรามาเริ่มเดินทางชมสามพันโบก โดยการล่อง เรือจากหาดสลึง และชมภาพโบกต่างๆว่าจะเป็นรูปอะไรกันบ้างอยู่ที่จินตานาการของแต่ละคนนะคะมาดูกันเลยค่ะ

โบกรูปหัวสุนัขและโบกรูปเต่า


โบกรูปหัวใจคู่

โบกรูป มิกกี้เมาท์

สระมรกต

ลาดหินสีและโบกรูปแจกัน

โบกรูปจระเข้

ปิดท้ายยามเย็นด้วย “หาดหงส์” พื้นที่ทรายขนาดใหญ่


ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะมาเป็นเวลานานหลายปี มองเห็นเป็นภาพที่สวยงามมากมาย “สามพันโบก”คือความงดงามของใต้น้ำโขงในยามฤดูแล้ง ณ แดนอีสาน ลองมาเที่ยวชมกันดูนะคะ
สวยงามจริงๆค่ะ??
by PuttaChart | Aug 30, 2019 | blog, ท่องเที่ยว
ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวสถานที่แห่งหนึ่งเมื่อไปถึงรู้สึกว่าตัวเองได้อยู่ในดินแดนแห่งความฝันเพราะถูกโอบล้อมไปด้วยหุบเขาความเขียวขจีของต้นไม้ธรรมชาติ รอบหมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอก อากาศที่เย็นสบายมองไปทางไหนก็สดชื่นและวิถีชีวิตความเป็นอยู่มิตรไมตรีของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวพม่า “เหมือนมีมนต์สะกด” อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าคือที่ไหน นั่นก็คือ หมู่บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก อยู่ใน ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
บ้านอีต่อง ที่จริงแล้วเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ซึ่งในอดีตเจริญรุ่งเรื่องมาก เป็นเหมืองขุดแร่ดีบุกมีคนงานจำนวนมาก จนเมื่อราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ผลจากการตัดราคาของแร่จากจีน ทำให้ความรุ่งเรืองของการขุดแร่จบลง ปิล็อกที่เคยรุ่งเรืองก็เงียบเหงา เหมืองแร่ต่างๆก็เริ่มทยอยปิดตัวลง คนงานก็แยกย้ายกันไป ปัจจปันรายได้หลักของหมู่บ้านอีต่อง มาจากการท่องเที่ยว ที่พักโฮมสเตย์ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ อากาศ สายหมอก การเดินทางต้องเดินทางผ่าน 399 โค้ง ก่อนถึงหมู่บ้านและนอกจากที่เที่ยวในหมู่บ้านแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆหมู่บ้าน นั่นก็คือ เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และที่ลืมไม่ได้คือ หมู่บ้านอีต่องยังเป็นทางผ่านและที่พักของนักท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมายพิชิตยอดเขาช้างเผือก ซึ่งจุดเดินเท้าอยู่ภายในหมู่บ้านอีต่องนั่นเอง ฤดูท่องเที่ยวที่คึกคักของหมู่บ้านก็คือเดือนตุลาคมเพราะเป็นช่วงเปิดให้พิชิตยอดเขาช้างเผือกจนไปถึงฤดูหนาวที่อากาศแสนเย็นสบาย มาชมบรรยากาศที่จะได้สัมผัสเมื่อมาถึงหมู่บ้านอีต่องกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มต้นด้วยการเดินทางออกจากกรุงเทพ

เริ่มสัมผัสความเป็นธรรมชาติ

และแล้วเราก็ถึงหมู่บ้านอีต่อง เราได้เข้าพักที่โฮมสเตย์ปิล็อค ต๊อก แต๊ก เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ริมบ่อน้ำหน้าหมู่บ้าน ซึ่งบรรยากาศและวิว ทิวทัศน์สวยงามมากเจ้าของก็น่ารัก อัธยาศัยดี มีอาหารเช้าให้ทาน(ข้าวต้มอร่อยมาก 555)


สะพานเขียนป้ายไม้ที่ระลึกอันละ 20 บาทมีให้เลือกเยอะมากค่ะ “ท่ามกลางสายหมอก” สดชื่นสุดๆค่ะ

เหมืองปิล็อก เครื่องจักรต่างๆที่เคยใช้งานในอดีต

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้หมู่บ้าน เนินช้างศึก

ช่องมิตรภาพไทย-พม่า เต็มไปด้วยม่านหมอกสวยงามเกินบรรยายค่ะ

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น


สุดท้ายก็ถึงเวลาเดินทางกลับ

ความประทับใจในการได้มีโอกาสไปสัมผัสกับหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาและสายหมอก “หมู่บ้านอีต่อง”เหมืองปิล็อก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ภูเขาป่าไม้ที่เขียวขจี สายหมอก และชาวที่เป็นกันเองและน่ารักก็ไม่เคยจางหายไปจากความรู้สึก อยากให้ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ภูเขา สายหมอก ได้ลองไปเที่ยวที่นี่ดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ ส่วนตัวแล้วถ้ามีโอกาสและเวลาที่เหมาะสมจะไม่พลาดการไปเที่ยวที่ “หมู่บ้านอีต่อง”อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ ??
by PuttaChart | Aug 28, 2019 | blog, ไม่มีหมวดหมู่
การไหว้บูชาพระราหูหรือเทพราหู ซึ่งมีความเชื่อกันว่าสามารถบันดาลประโยชน์และโทษให้เกิดกับบุคคลหรือสิ่งต่างๆได้ ดังนั้นการไหว้พระราหูก็เพื่อให้สิ่งเร็วร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราบรรเทาเบาบางลงและเปลี่ยนเป็นสิ่งดี และจะทำให้เกิดโชคลาภ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เจริญก้าวหน้าร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป จึงทำให้ผู้คนมากมายมีความเชื่อในการไหว้บูชาพระราหู หรือเรียกสั้นๆว่า “ไหว้ราหู”
เนื่องจากดาวราหูมีเลข 8 เป็นสัญลักษณ์และมีกำลังเท่ากับ 12 ดังนั้นจึงสามารถที่จะจัดของไหว้จำนวน 8 หรือ 12 อย่าง หรือขึ้นอยู่กับความศรัทธา ควรประกอบไปด้วย ของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือจำนวนธูปที่ต้องใช้ตามจำนวนของที่ไหว้ เช่นจำนวนของไหว้ 8 อย่างก็ใช้ธูป 8 ดอก เรามาดูตัวอย่างและความหมายของที่นำมาไหว้แต่ละชนิดกันเลยดีกว่าค่ะ

1.ไก่ดำ จะช่วยในเรื่องของการทำมาหากินที่ดี ไม่อดไม่อยาก

2.เหล้าดำ จะช่วยในเรื่องของการลงทุนทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ และได้กำไรกลับมา

3.กาแฟดำ หมายถึง ไม่ว่าจะคิดจะทำสิ่งใดก็จะสมหวัง

4.เฉาก๊วย จะช่วยในเรื่องความใจเย็น มีความคิดรอบคอบ

5.ถั่วดำ หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

6.ข้าวเหนียวดำ จะช่วยในเรื่องของความเหนียวแน่นทางการเงิน

7.ขนมเปียกปูน หมายถึง การปูนบำเน็จรางวัล

8.ไข่เยียวม้า จะช่วยในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับสิ่งใดๆ ก็จะสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้
การเตรียมของไหว้สีดำที่กล่าวมา 8 อย่างข้างต้น บางที่หรือบางท่านอาจหาของไม่ได้ตามนี้ ก็อาจเปลี่ยนเป็นของดำอย่างอื่นแทนได้ เช่น องุ่นดำ งาดำ น้ำอัดลมสีดำ แต่ย้ำว่าของดำที่นำมาไหว้ต้องพร้อมรับประทานหรือดื่มได้เลย ส่วนตัวก็เคยได้มีโอกาสไปไหว้พระราหู ที่ “วัดศรีษะทอง จ.นครปฐม”มาค่ะ ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหามากมายเข้ามาในชีวิต เมื่อได้ไหว้พระราหูแล้วก็รู้สึกว่าสบายใจขึ้น และปัญหาต่างๆที่มีก็ค่อยๆเบาบางลง “ย้ำนะคะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล” 5555555
สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับความหมายของดำและการไหว้พระราหูก็เป็นเรื่องของความเชื่อที่อาจกล่าวได้ว่า การไหว้ราหู ก็ช่วยให้เรามีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น และยังอาจช่วยให้ผู้ที่ศรัทธาเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น แต่การกราบไหว้บูชาพระราหูควรทำอย่างมีสติไม่เชื่อจนงมงายนะคะ
เพราะทุกชีวิตของคนเราจะดีขึ้นได้ก็อยูที่จิตใจและการกระทำของตนเอง “คิดดีทำดีชีวิตดีค่ะ”