by PuttaChart | Dec 6, 2019 | blog

Wacaco Minipresso GR คือเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่แบบพกพา เครื่องบดกาแฟที่เข้ากันได้ดี เป็นเครื่องชงกาแฟที่เหมาะมากสำหรับนักเดินทางและผู้ที่ชื่นชอบกาแฟเพราะมีขนาดเล็ก
Minipresso GR เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณที่จะทำให้ได้ลิ้มรสชาติของกาแฟอย่างแท้จริงและได้เพลิดเพลินไปกับกาแฟเอสเพรสโซ่ในทุกๆที่ที่คุณอยู่ น้ำหนักเบากะทัดรัดและทนทาน
Minipresso GR จะทำให้คุณยิ้มเมื่อคุณได้รับกาแฟเอสเพรสโซหยดแรกจากแก้วกาแฟเล็กๆใบนี้
ขนาดและน้ำหนัก(Compact&Featherweight)

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปกี่ชั่วโมงหรือกี่สัปดาห์ก็ตาม ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดเล็กไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บเครื่องชงกาแฟแบบพกพามันเหมาะมากสำหรับคุณ
น้ำหนักรวม (Overall weight) 0.8 LBS / 360 Grams
นวัตกรรมและประสิทธิภาพ(Innovative &Powerfully

Minipresso GR การออกแบบมาจากนวัตกรรมของลูกสูบกึ่งอัตโนมัติ ปริมาณน้ำที่เล็กน้อยจะถูกฉีดเข้ากับตัวแปลงกาแฟ สู่ขั้นตอนการสกัดที่ดีที่สุดจะทำให้ได้เอสเพรสโซ่ที่เข้มข้น
ความยาว(Overall length) 6.89 IN / 175 MM.
ประสิทธิภาพและใช้งานง่าย(Efficient & Easy to use)

นอกจากความสวยงามที่น่าพึงพอใจแล้วยังมีการออกแบบที่ทันสมัย มีแกนกลางแบบลูกสูบอัตโนมัติปลดล็อคจากตำแหน่งการถือและกดที่จุดเพื่อควบคุมปริมาณของกาแฟที่สกัดออกมาได้อย่างง่ายดาย
แรงกดเฉลี่ย(Average Pressure)116 PSI / 8 BARS
ความสะดวกสบายและวิวัฒนาการ(Convenient & Evolutive)

Minipresso ไม่ต้องใช้อากาศอัด ,กล่องN2O หรือระบบไฟฟ้าเพียงแค่คุณใช้มือของคุณในการเตรียมเครื่องดื่มกาแฟที่คุณรัก และถังเก็บน้ำมีความจุที่แตกต่าง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเอสเปรสโซ่ได้หลายประเภท
มาตรฐานความจุของถัง(Standard water tank) 2.35 OZ / 70 ML.
ลักษณะ (Characteristics)

Dimension 175x70x60 mm.
Weight 360 g.
Water capacity 70ml.
Ground capacity 8g.
Average pressure 8 bar
Other Built-in espresso cup and scoop
สำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ชื่นชอบกาแฟควรมีเก็บไว้สักอันนะคะหรือจะชื้อเป็นของฝากให้ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟก็เหมาะเลยทีเดียวค่ะ สะดวกในการพกพา และยังได้ดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ที่เข้มข้นได้ในทุกทีและทุกเวลานะคะ บอกเลยว่า เสิศค่ะ!!!?
by PuttaChart | Dec 5, 2019 | blog

กาแฟ(Coffee)เป็นเครื่องดิ่มที่ผู้คนนิยมดื่มและขายกันเป็นจำนวนมาก ส่วนมากกาแฟที่ดื่มกันทุกวันนี้ทำมาจากเม็ดกาแฟคั่วชึ่งได้มาจากต้นกาแฟ นิยมดื่มทั้งร้อนและเย็น
ชนิดของเม็ดกาแฟ มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์แต่หลักๆที่ได้รับความนิยมได้แก่
อาราบิก้า(Arabica) เป็นสายพันธ์ที่นิยมปลูกและบริโภคกันมากที่สุด กาแฟสายพันธ์นี้ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสารกาแฟชั้นดี มีกลิ่นและมีรสชาติดีที่สุด
เมล็ดกาแฟอราบิก้าจะมีรูปทรงค่อนข้างเรียวผอม รอยผ่ามีลักษณะคล้ายตัว S เมื่อผ่านกระบวนการผลิตแล้ว กาแฟพันธุ์นี้จะมีกลิ่นหอมหวาน อบอวล ซับซ้อน คล้ายกลิ่นชอกโกแลตและดอกไม้ รสชาตินุ่มละมุน
กาแฟอราบิก้าชอบความเย็น เจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน แม่ฮ่องสอนและลำปาง
โรบัสต้า(Robusta) เป็นกาแฟที่ให้รสชาติด้อยกว่าอราบิก้า เพราะมีรสชาติขม เปรี้ยวและฝาดมากกว่า แต่ความเข้มข้นของกาแฟพันธุ์นี้จะมีมากว่า สามารถรับรู้ได้ในเวลาดื่ม ส่วนใหญ่จะนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป หรือนำไปผสมกับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างกันไป
กาแฟพันธ์นี้เป็นกาแฟต้องการความชุ่มชื้นสูง ปลูกง่ายและให้ผลผลิตมาก นิยมปลูกกันมากในทวีปอัฟริกาและเอเชีย สำหรับประเทศไทยนิยมปลูกทางภาคใต้ เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
เมล็ดพันธุ์ของโรบัสต้าจะอวบอ้วน ด้านหลังมีลักษณะนูนเป็นหลังเต๋า รอยผ่าตรงกลางเมล็ดจะค่อนข้างตรง สายพันธุ์นี้กลิ่นไม่หอมหวานอบอวล ไม่ซับซ้อน รสชาติฝาดกว่าพันธุ์อาราบิก้า
กาแฟในปัจจุบันมีความเฉพาะเจาะจงในการปลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีการระบุถึงประเทศ ภูมิภาค และบางครั้งต้องบอกว่าปลูกที่พื้นที่บริเวณไหนกันเลยทีเดียว ถิ่นที่ปลูกกาแฟ พื้นดินและสภาพแวดล้อมที่ต่างกันไปทำให้รสชาติของกาแฟก็แตกต่างกันออกไปด้วย กาแฟโรบัสต้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดชนิดหนึ่งของโลกได้แก่
โกปิ ลูวัค (Kopi Luwak) ของอินโดนีเซีย เมล็ดของกาแฟชนิดนี้ถูกเก็บมาจากมูลของชะมด (Common Palm Civet) ซึ่งกระบวนการย่อยภายในร่างกายของชะมดทำให้ได้รสชาติที่ดีเป็นพิเศษเรียกเป็นภาษาไทยว่า “กาแฟขี้ชะมด” ปัจจุบันเมล็ดกาแฟ 20-30 กิโลกรัม จะได้กาแฟขี้ชะมดเพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้นดังนั้นทำให้ราคาขายต่อกิโลกรัมอยู่ที่ประมาณ 20000 บาท/ กิโลกรัม ยิ่งการเก็บบ่มเมล็ดกาแฟนานราคาก็จะยิ่งสูง ราคาขายกาแฟหน้าร้านต่อแก้วอยู่ที่ราคาประมาณแก้วละ 400-500 บาท
และกาแฟที่หายากมากและเป็นกาแฟที่รสชาติดีและแพงที่สุดในโลก ก็คือ
กาแฟบลูเมาท์เทน(Jamaica Blue Mountain) ต้องเป็นกาแฟที่มาจาก Jamaica ที่ปลูกบนภูเขา Blue Mountain เท่านั้นถ้าปลูกในพื้นที่สูงกว่า 1500 ฟุตจะเรียกว่า Jamaica High Mountain ถ้าปลูกต่ำกว่าเรียกว่า Jamaica Supreme Mountain ซึ่งผลผลิตส่วนมากจะถูกส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งกันไป ชึ่งราคาต่อกิโลกรัมสูงมาก
บลูเมาท์เทนของแท้ต้องมาจากสายพันธุ์ทริปิก้า(Tropica) ที่เก็บจากเกาะจาไมก้าเท่านั้น มีรสชาติโดยรวมที่ผสมผสานความหอม ความสดชื่นมีชีวิตชีวา และน้ำหนักกาแฟเข้าด้วยกัน รสชาติจึงออกมาหอมหวานขาดความขม มีความกลมกล่อม กลิ่นหอมนุ่มนวล ให้ความสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนภูเขาสูงฟ้าใส ชึ่ง Jamaica Blue Mountain แท้ๆจะต้องมีใบรับรองจากรัฐบาลจาไมก้าเท่านั้นราคาจำหน่ายกาแฟคั่วบด Jamaica Blue Mountain จำหน่ายในราคาเกือบ 20000 บาท/กิโลกรัม
มารู้จักชื่อเรียกเครื่องดื่มแต่ละชนิดที่ทำมาจากกาแฟกันดีกว่าค่ะ

1.กาแฟดำ (Black Coffee) เป็นการชงด้วยวิธีการหยดน้ำ อาจเป็นแบบให้น้ำซึม เสิร์ฟโดยไม่ใส่นม อาจเติมน้ำตาลได้ ส่วนมากจะเข้าใจว่าเป็นอย่างเดียวกับเอสเพรสโซ่
“ชึ่งไม่ใช่”กาแฟทั้งสองชนิดมีความต่างกันค่ะ

2.เอสเปรสโซ่ (Espresso) คือกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและหนักแน่น ด้วยวิธีการชงจะใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียด เอสเปรสโซ มาจากภาษาอิตาลี “Espresso”แปลว่าเร่งด่วน สำหรับกาแฟเอสเปรสโซจะไม่ปรุงด้วยน้ำตาลและนม มักจะเสิร์ฟเป็นชอต(แบบแก้วชอตเล็กๆ) การสั่งเอสเปรสโซ่ตามร้านกาแฟทั่วไปของแต่ละประเทศ จะสั่งเป็นแบบ “ชิงเกิล” หรือ “ดับเบิ้ล” คือ 1 ชอตหรือ 2 ชอตเพื่อไม่ให้เสียรสชาติจึงควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ๆ เพราะเอสเปรสโซมีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน
แต่ในประเทศไทยจะชินและนิยมกับการสั่งการกาแฟตามร้านทั่วไปว่า “เอสเปรสโซ่เย็น” ชึ่งใส่ทั้งนมและน้ำตาล ชึ่งประเทศทั่วๆไปจะไม่มีนะคะ
สำหรับ เอสเปรสโซ่แล้วจะ ไม่ใส่นม ไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาล และไม่ใส่น้ำแข็งค่ะ “กาแฟเพรียวๆเท่านั้นค่ะ”

3.อเมริกาโน่ (Americano) คือเครื่องดื่มกาแฟชึ่งมีวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเปรสโซ่ ทำให้อเมริกาโน่เจือจาง มีความแก่พอๆกับกาแฟธรรมดา เหมาะสมหรับผู้ที่ชอบกาแฟดำแต่ไม่แก่และหนักถึงขั้นเอสเปรสโซ่ ส่วนมากก็จะไม่ปรุงนมและน้ำตาล บางท่านก็ดื่มแบบเย็นๆก็สดชื่นไปอีกแบบค่ะ

4.คาปูชิโน่ (Cappuccino) ส่วนผสมหลักคือ เอสเปรสโซ่และ นม โดยมีอัตราส่วน 1/3 ส่วนผสมกับนมสตรีม (นมร้อนผ่านไอน้ำ)และนมตีเป็นโฟมละเอียดลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยด้วยผงชินนาม่อน หรือ ผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ

5.มอคค่า (Moca) คือกาแฟที่มีส่วนผสมของ เอสเปรสโซ่ นมสด และช็อกโกแลต การชงกาแฟมอคค่าจะใช้ เอสเปรสโซ่ 1/3 ส่วนผสมกัน น้ำนมร้อน 2/3 ส่วนเสริฟได้ทั้งแบบร้อนและเย็นใส่น้ำแข็ง มักตามด้วยวิปครีม
มอคค่า อาจจะหมายถึงกาแฟอาราบิก้าชนิดหนึ่งที่ปลูกอยู่ที่บริเวณ”ท่าเรือมอคค่า” ในประเทศเยเมนก็ได้เพราะมีสี กลิ่นคล้ายช็อกโกแลต ขึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนรู้จักเป็นที่แพร่หลาย

6.ลาเต้ (Latte) เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า “นม” กาแฟลาเต้ ก็คือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยการเทเอสเปรสโซ่ 1/3 ส่วนและนมร้อนอีก 2/3 ส่วนลงในถ้วยพร้อมๆกันและจะหยดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม.ทับด้านบน ผู้ชงจะใช้วิธีขยับมือเล็กน้อยขณะรินนมและโฟมนมลงบนกาแฟทำให้เกิดลวดลายต่างๆเรียกว่า ลาเต้อาร์ต (Latte Art)หรือศิลปฟองนมในถ้วยกาแฟ
แหล่งผลิตกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก
1.จาไมก้า (Jamaica) เป็นแหล่งที่ผลิตกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก บูลเมาท์เทน (Blue Mountain) ซึ่งปลูกบนยอดเขาสูง (Jamaica Blue Mountain)
2.บราซิล (Barcil) ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 1 ของโลก ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง บราซิลเลี่ยน ซานโตส (Barzillian Santos)
3.โคลัมเบีย (Columbia) ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 2 ของโลก ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงคือ ซูรีโม (Suremo)
4.อินโดนีเซีย (Indonesia) โกปิ ลูวัค (Kopi Luwak) ของอินโดนีเซีย เมล็ดของกาแฟชนิดนี้ถูกเก็บมาจากมูลของชะมด (Common Palm Civet) ซึ่งกระบวนการย่อยภายในร่างกายของชะมดทำให้ได้รสชาติที่ดีเป็นพิเศษ
5.ฮาวาย (Hawai) กาแฟที่ขึ้นชื่อของที่ฮาวายคือ โคน่า (Kona)
6.อินเดีย (India) จะกาแฟรสชาติเฉพาะตัว ชื่อ มอนซูน มาลาบาร์ (Monsooned Malabar)
7.เอธิโอเปีย (Ethiopia) ประชากร 1ใน 4ของประเทศมีรายได้จากอุตสาหกรรมกาแฟ ฮารา ลองเบอรี่ (Harrar Longberry ), ซีดาโม(Sidamo),คาฟฟา (Kaffa) คือกาแฟที่มีชื่อเสียงของเอธิโอเปีย
8.เคนยา (Kenya) “เคนยา AA” คือกาแฟที่มีคุณภาพของประเทศเคนยา
9.เวียดนาม (Vietnam) ปัจจุบันส่งออกกาแฟ แบบมาแรงเทียบเท่าประเทศบราชิล วิธีการชงกาแฟสไตล์เวียดนาม “กาแฟหยดเวียดนาม” กาแฟคั่วบดที่เป็นที่นิยมของเวียดนามคือ ยี่ห้อ “Viet Nguyen” เวียดเหงียน
สำหรับประเทศไทยแล้ว ปลูกกาแฟ โรบัสต้า ประมาณร้อยละ 98โดยปลูกทางภาคใต้ และอีกประมาณ 2 % เป็นกาแฟอาราบิก้าชึ่งปลูกมากทางภาคเหนือ กาแฟที่มีชื่อเสียงของไทย คือ กาแฟดอยช้าง ซึ่งปลูกบนดอยช้าง จังหวัดเขียงราย ถือว่าเป็นกาแฟที่ได้จากขบวนการผลิตที่ได้มาตราฐานสากล และรสชาติดีเทียบเคียงกับกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก
รู้จักชนิดของกาแฟและชนิดของเครื่องดื่มที่ทำมาจากกาแฟรวมถึงแหล่งที่มาของกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลกกันแล้วนะคะ บทความนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นของคนรัก”กาแฟ ” ลองเลือกดื่มกาแฟตามที่เราต้องการดูนะคะว่าเราเหมาะกับกาแฟแบบไหน รสชาติใด
Love Coffee ?
by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, ท่องเที่ยว
ภูลมโล-ภูหินร่องกล้า
ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือพิษณุโลก เพชรบูรณ์และเลย ภูลมโลอยู่ในพื้นที่ของอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง(ซากุระเมืองไทย)ที่เยอะที่สุดในประเทศพื้นที่กว่า 1200 ไร่มีต้นนางพญาเสือโคร่งนับหมื่นต้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวคือช่วงฤดูหนาวประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานไม่พร้อมกันนะคะ ก่อนเดินทางไปเที่ยวชมก็ต้องเข็คข้อมูลกับทางอุทยานก่อนนะคะ เพื่อความชัวร์ค่ะ
สำหรับทริปการเดินทาง เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมโดยรถยนต์ส่วนตัว เมื่อไปถึงก็จอดรถไว้ที่อุทยานและเหมารถเพื่อขึ้นเขาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง บอกเลยว่าการขับรถขึ้นเขาทางชันและน่ากลัวมากกกก ต้องให้คนในพื้นที่ ที่ชำนาญเส้นทางขับจะดีกว่ามากๆค่ะ (เพราะช่วงที่ไปฝนตกค่อนข้างหนัก)ทางอุทยานแจ้งห้ามขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักฝนหยุดตกและทางอุทยานมั่นใจว่าสามารถให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมได้ จึงประกาศแจ้งนักท่องเที่ยวให้สามารถขึ้นชมได้ตามปกติแต่ทริปเราก็แอบตื่นเต้นและก็กลัวนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ขึ้นค่ะไหนๆก็มาละ มาดูภาพบรรยากาศกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มจากการขึ้นรถเหมาของทางอุทยานเราเดินทางกัน 3 คนค่ะ

ระหว่างทางคนขับรถจะจอดให้เราได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่งเป็นระยะๆ แต่ตอนที่เดินทางนั้นฝนเพิ่งหยุดตกไป จึงทำให้เกิดหมอกจำนวนมาก ซึ่งคนขับรถเองบอกว่าตั้งแต่อยู่มาและพานักท่องเที่ยวขึ้นชมดอกนางพญาเสือโคร่งไม่เคยเจอปรากฎการณ์ที่หมอกลงเยอะได้ขนาดนี้มาก่อนเลย คือต้องไปใกล้ๆต้นดอกนางพญาเสือโคร่งจึงเห็นดอกสีชมพู เพราะมองไปทางไหนเห็นแต่สีขาวๆของหมอก เหมือนเมืองในฝัน สวยเกินคำบรรยายจริงๆค่ะ


สุดท้ายสำหรับทริปนี้ อาจจะไม่ได้เห็นภูเขาสีชมพู ที่เต็มไปด้วยดอกนางพญาเสือโคร่ง ก็ไม่รู้สึกผิดหวังเลยค่ะ เพราะการได้เจอหมอกที่ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา และตลอดเส้นทางที่ขึ้นเขา ก็สวยงามมากจริงๆค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีกสักคร้งเพื่อได้ชมดอกพญาเสือโคร่งที่ออกดอกสีชมพูเต็มภูเขา (ภูเขาสีชมพู ซากุระเมืองไทย) เชื่อเลยค่ะ!! ความสวยงามคงแตกต่างกันไปอีกแบบ อย่าลืมนะคะก่อนการเดินทางเข็คข้อมูลกับทางอุทยานทุกครั้งนะคะ!!

???
by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, ท่องเที่ยว

“นครวัด” หรือฝรั่งเศส เรียก อังกอร์วัด(Angkor Wat) เป็นหมู่ปราสาทในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา นครวัดถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกและเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่2 จุดประสงค์เพื่อสร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ และยังใช้เป็นราชสุสานเก็บพระศพของพระองค์ ด้วยเหตุนี้มหาปราสาทนครวัดจึงถูกสร้างให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ต่างจากปราสาทอื่นๆที่ส่วนมากหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ศาสนาฮินดูนั้นยกย่องกษัตริย์ว่าเป็นเทพเจ้าเรียกว่า “ลัทธิเทวราชา” กษัตริย์คือตัวแทนของเทพเจ้าในโลกมนุษย์ ซึ่งมีการสร้างเทวสถานถวายให้และยังเชื่อว่าเมื่อสวรรคตแล้ววิญญาณจะประทับอยู่ที่ปราสาท ด้วยความเชื่อนี้เองทำให้กษัตริย์ขอมเมื่อขึ้นครองราชย์จึงตั้งหน้าตั้งตาสร้างประสาทตลอดรัชกาลของแต่ละพระองค์ เป็นศาสนสถานสัญลักษณ์ของระบบสุริยะจักรวาลตามคติของชาวฮินดู คือ ศูนย์กลางของโลกและจักรวาลนั่นเอง โดยนครวัดถือเป็นจุดสูงสุดของรูปแบบการสร้างสถาปัตยกรรมเขมรแบบดั้งเดิม และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชามีการปรากฏอยู่บนธงชาติ
เชื่อกันว่ากว่าจะเป็นปราสาทนครวัดต้องใช้หินปริมาตรหลายล้านลูกบาศก์เมตร มีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก ใช้แรงงานช้างนับหมื่นเขือก แรงงานคนนับแสน ขนและลากหินมาจากเขาพนมกุเลน ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร ปราสาทนครวัดมีเสา 1800 ต้นหนักต้นละ 10 ตัน เพราะไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถาน ยังเป็นราชธานีอีกด้วย มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล มีความยาว 1.5 กิโลเมตร กว้าง 1.3 กิโลเมตร รวมพื้นที่ 1219 ไร่ หรือราว 200000 ตารางเมตรมีคูน้ำล้อมรอบตามแบบมหาสมุทรล้อมเขาพระสุเมรุ
กำแพงชั้นนอกรอบปราสาทแสนสุดอลังการด้วยงานสลักหิน คือภาพเล่าวรรณคดี รามายณะ รูปแกะสลักที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ รูปเทวดากับอสูรกวนเกษียรณสมุทรด้วยเขาพระสุเมรุ รวมถึงนางอัปสร หรือ อัปสรา 1635 นางที่ทั้งหมดทรงเครื่องและทรงผมไม่ซ้ำกันเลย
เล่าประวัติความเป็นมาเยอะพอสมควรละ เรามาเริ่มการเดินทางกันดีกว่าค่ะสำหรับทริปเราใช้เวลาท่องเที่ยว 2 คืน 3วัน โดยเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวและนำรถไปจอดที่จังหวัดปราจีนบุรี (โรงเกลือ) จอดรถค้างคืนได้หายห่วงค่ะ เราเริ่มจากจุดตรวจคนเมือง

จากนั้นเราเหมารถตู้เพื่อไปยัง เสียมราฐและเข้าที่พัก

และในวันแรกที่ไปถึงเราได้เหมารถสามล้อเครื่องไปที่ปราสาทนครวัดเลยค่ะ แต่เป็นช่วงเย็นๆแล้วเราจึงไม่ได้เขาไปด้านใน (ในเย็นวันนั้นเราจึงให้คนขับรถพาไปชื้อตั๋วสำหรับเข้าชมในวันถัดไป) บรรยากาศยามเย็น

เที่ยวตลาดกลางคืน

เช้าวันต่อมาเราเริ่มจากทานอาหารเช้าของโรงแรม

เริ่มชื่นชมความสวยงามของปราสาทนครวัด นครธม ที่ อาโนลด์ ทอยน์บี นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษได้เคยกล่าวไว้ว่า “See Angkor Wat And Die” (เห็นนครวัดก็ตายตาหลับแล้ว)
การแต่งกายเมื่อเข้าชมปราสารนครวัด ห้ามใส่กางเกงขาสั้นถ้าใส่ไปก็มีที่ให้ชื้อเปลี่ยนเป็นผ้าถุง ตามภาพนะคะ



สำหรับทริปท่องเที่ยวของเรา ทุกคนประทับใจมากค่ะและต้องอึ้งและทึ่ง !!!ไปกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามและอลังการเกินคำบรรยาย เพราะเมื่อเราได้ไปเห็นได้ไปสัมผัสแล้วเราจะมีคำถามขึ้นมาว่า
“้เขาสร้างขึ้นได้อย่างไง”
สวยงามมากจริงๆค่ะ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวกันนะคะ
See Angkor Wat And Die
???
by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, ท่องเที่ยว

สิงค์โปร์เป็นนครรัฐสมัยใหม่และเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสิงคโปร์มีรายได้ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับสามของโลก ภาษาที่ใช้มี 4 ภาษา คือภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ภาษาจีนกลาง และภาษาทมิฬในทริปนี้เราใช้เวลาเที่ยว 3 คืน 4 วันในวันแรกเราไปถึงสนามบินชางงี จากนั้นเราเดินทางด้วยรถไฟไปลงที่สถานีเบฟอร์น(Bayfront) เพื่อเข้าพักที่โรงแรมMarina Bay Sands สำหรับทริปนี้มีหลงบ้างนิดหน่อยชึ่งขึ้นรถไฟไปลงที่สถานนี Marina Bay (ซึ่งผิดนะคะ)วิธีการเดินทางทั้งหมดของประเทศสิงคโปร์ ใช้รถไฟใต้ดิน รถบัส และแท๊กซี่ สำหรับทริปเราส่วนมากใช้การเดินทางโดยรถไฟใต้ดินค่ะ (การเดินทางในสิงคโปร์ถือว่าสะดวกสบายมากๆเลยค่ะ)เริ่มวันแรกกันเลยดีกว่าค่ะ ลงสถานีผิด เดินลากกระเป๋าเข้าโรงแรมค่ะ 55555

จากนั้นออกมาถ่ายรูปที่เมอร์ไลออน(Merlion) เป็นสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวของสิงค์โปร์ เป็นรูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำ สูง 8.6 เมตรและหนัก 70ตัน ตั้งอยู่ริมอ่าวมาริน่า ช่วงปากแม่น้ำสิงคโปร์

จากนั้นเดินกลับโรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands Hotel) โรงแรมหรูใจกลางเมืองสิงค์โปร์ กับสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นสระไร้ขอบ(Infinity pool) ซึ่งอยู่ที่ เดอะ แซนด์ สกาย ปาร์ค(The Sands Sky Park) ดาดฟ้าทรงเรือชั้น 55 ของโรงแรมซึ่งในโซนของ เดอะ แซนด์ สกาย ปาร์ค ทอดตัวโค้ง เป็นแนวยาว 340 เมตรบนความสูง 200 เมตรเหนืออาคารทั้ง 3 มีพื่นที่ 12400 ตารางเมตร เทียบกับสนามฟุตบอล 3 แห่งเรียงต่อกันสามารถรับรองแขกได้ 3900 คน ส่วนสระว่ายน้ำมีความยาว 150 เมตรจุน้ำได้ถึง 380000 แกลลอน(1440 ลูกบาศก์เมตร) ส่วนหัวเรือที่ยื่นออกมาก็เป็นจุดชมวิวสุดอลังการ สัมผัสวิวได้ 360 องศารองรับผู้เข้าชมได้ครั้งละ900 คนเสียค่าชมคนละ 450 บาทสำหรับสระว่ายน้ำจะสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่เข้าพักที่โรงแรมเท่านั่นค่ะ



วันที่สองเราไปเที่ยวที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ตั้งอยู่บนเกาะเซนโตซ่า เป็นสวนสนุกที่รวบรวมทุกความสนุกไว้อย่างครบรส มีโซนความสนุกมากถึง 7 โซนได้แก่ Holly wood,New York,Sci-Fi City,Ancient Egypt,Lost World,Far Far Away และMadagascar ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และบริการอีกด้วยสำหรับทริปนี้เราเข้าพักที่โรงแรมในยูนิเวอร์แซลด้วยค่ะ ห้องพักก็น่ารักเหมาะกับการเป็นสวนสนุกเลยค่ะ


วันที่สามกับการเที่ยวที่ S.E.A Aquarium ซึ่งอยู่บนเกาะเซนโตซ่า เป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และตื่นตากับสัตว์ทะเลมากกว่า 100000 ตัวทั้งหมดราวๆ 800 สายพันธุ์มีแท็งก์น้ำกระจกขนาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมสัตว์ทะเลต่างๆแหวกว่ายไปมาในน้ำอย่างอลังการ




เมื่อเที่ยวที่เกาะเซนโตซ่าเสร็จช่วงเย็นเราเดินทางกลับไปพักแถวถนนออร์ชาร์ด(Orchard Road)และเดินเที่ยวแถวถนนออร์ชาร์ด มีแหล่งให้ช้อปปิ้งมากมายเลยค่ะ

และในเช้าวันที่สี่เราก็เดินทางกลับโดยขึ้นรถประจำทางจากหน้าโรงแรมถึงสนามบินเลยค่ะ

สุดท้ายอยากหาที่เที่ยวต่างประเทศที่ใกล้ไทย ต้องไม่พลาดไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปรนะคะ สิงคโปร์ถือเป็นประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งแต่แจ๋วของเอเชีย เป็นประเทศเดียวที่ไม่มีเมืองหลวง แต่กลับมีการเติบโตสูงอย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในเอเขียเลยทีเดียวค่ะ😄😄😄
by PuttaChart | Dec 1, 2019 | blog, การศึกษา

ผลการเรียน หรือ “เกรด”ไม่ได้ใช้วัดผลความสำเร็จของชีวิตคน และไม่ควรมีคุณค่าใช้วัดความเก่งของใคร เกรดเป็นแค่ตัวสะท้อนวิธีการทำงานตัวหนึ่ง แต่เกรดยังคงเป็นเรื่องดีและจำเป็นในบางมุม เช่น บางคนใช้ในการขอทุนเรียนต่อ บางที่เข้าทำงานต้องใช้เกรด
เมื่อความสำเร็จในการศึกษามองกันที่เกรดเพียงอย่างเดียว โรงเรียนกวดวิชาต่างเน้นจุดเด่นของตัวเองว่า “เมื่อเรียนแล้วจะทำให้คุณทำคะแนนได้ดีมากขึ้น หรือได้เกรดดีขึ้นแน่นอน ซึ่งนี่คือการสะท้อนว่า “คนที่ไปเรียนกวดวิชา ก็ไปเรียนเพื่ออยากได้คะแนนและเกรดดีขึ้นไม่ใช่เพื่อความรู้
” แอบเศร้า”
เช่นเดียวกันคนที่ได้เกรดดีจะถูกมองว่าเป็นเด็กเก่ง มีเสียงปรบมือ ชื่นชม ได้เกียรติบัตร ในขณะที่เด็กเกรดแย่จะถูกมองว่าไม่เก่ง โง่ และอีกหลายๆคำพูดที่บั่นทอนจิตใจเด็ก
ความคิดส่วนตัวนะคะ จริงๆแล้วเด็กไม่จำเป็นต้องสนใจเกรด แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องมุ่งมั่นกับการเรียนนะคะ เด็กทุกคนควรตั้งใจ ใส่ใจและมีความอดทนที่จะฝึกฝน ยิ่งยากยิ่งต้องฝึก นี้คือสิ่งที่เด็กทุกคนต้องมีติดตัว และที่สำคัญพ่อแม่ควรเน้นสอนให้เด็ก ตั้งเป้าหมายในชีวิตของตนเองและไม่แทรกแซงความฝันของเขา นั่นหมายความว่าเด็กควรจะต้องทำหรือเป็นในสิ่งที่เขาถนัดและชอบ วิชาการหลายๆอย่างที่เด็กไม่ถนัดมันอาจไม่ใช่ความฝันและเป้าหมายของเขาแต่เราสามารถใช้วิชาเหล่านั้นมาเพื่อ “ฝึกตั้งเป้าหมายและวางแผนการเรียน”
เกรดมีความหมายก็เพียงแค่อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับใช้มองดูและสะท้อนการทำงานของเด็กแต่ละคนเท่านั้น เกรดไม่ได้มีคุณค่าขนาดชี้วัดค่าความเก่งของใคร เพราะวิชาการเรียน การสอนของแต่ละโรงเรียนแตกต่างกัน ยิ่งเด็กต่างโรงเรียนกันอย่าเอาเกรดมาเทียบกันโดยเด็ดขาด และในปัจจุบันมีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้ได้เกรดดีๆ เช่น หาโพยข้อสอบ เรียนพิเศษที่เน้นข้อสอบตรง ติวเพิ่มเกรดโดยเฉพาะ และอีกมากมายหลายวิธี(ทุกอย่างคือธุรกิจ)
ในฐานะที่ตนเองก็เป็นแม่คนหนึ่งที่มีลูก แม่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ความฉลาดด้านการเข้าใจตนเองและการเข้าใจคนอื่น และคอยชี้นำเป้าหมายและอนาคตข้างหน้าของลูก ว่าลูกจะไปอยู่ตรงจุดไหนของชีวิต และจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไร สิ่งที่ผู้ปกครองต้องมีให้ลูกทุกวัน คือเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆให้ลูกฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพราะเป้าหมายและความฝัน ของเด็กๆแต่ละคนไม่ใช่จะได้กันมาโดยง่าย เราในฐานะผู้ปกครองมีประสบการณ์ และเมื่อรู้อะไรมาก็ควรเล่า เผื่อเรื่องราวบางเรื่อง อาจจะทำให้ลูกเกิดแรงบันดาลใจและทำมันให้เกิดขึ้นจริง
สุดท้ายเชื่อเหลือเกินค่ะว่า การที่คนเรามีเป้าหมาย มีความอดทน มุ่งมั่น รู้จักเข้าใจตนเองและคนอื่น มีสุขภาพจิตที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรง ก็จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุขได้ ไม่ว่าเขาจะเคยได้เกรดดี เกรดแย่ เรียนที่ไหน หรือมหาวิทยาลัยไหนก็ตาม
อย่าให้การเรียนรู้ทุกวันนี้เป็นการเรียนเพื่อสอบ!!! อยากให้การเรียนเป็นการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคตจริงๆค่ะ
“เกรดใช้วัดแค่บางอย่าง แต่ไม่สามารถวัดได้อีกหลายอย่างในชีวิต”
สู้ สู้ นะคะเด็กๆ ✌️✌️